Main Page Contact Us News Web Board Contact Us Site Map Links
     
 
Romance
Detective
Children's Books
Interesting Books

 

             
       
    โรมานซ์สบาย ๆ สไตล์ สุวดี 1   2   3   4   5   6   7   8   
       
             
   
เฉกนิรฉันท์
 
  ประเภท: นิยายไทย
ผู้เขียน:

วิลาสลักษณา (สุวดี)

ผู้แปล -
จำนวนหน้า: 521 หน้า
ราคา: 230 บาท
Try


เขาและเธอจำต้องแสร้งแสดงละครว่ารักกัน แต่แล้วเมื่อหัวใจต่างเรียกร้อง
หากันในที่สุด ทั้งสองจะทำให้อีกฝ่ายเชื่อได้อย่างไร...ว่าสิ่งที่มีให้กันนั้น
แท้จริงแล้วมันมิใช่ละคร...


คำนำผู้เขียน

เฉกนิรฉันท์ (As Though Its Lovelorn) นี้ ผู้เขียนแต่งขึ้นหลังจากเขียน ‘รติภวังค์’ จบ ทั้งๆที่เพื่อนมาถอดคีย์บอร์ดจากคอมพิวเตอร์ไป เพราะขณะที่เขียนรติภวังค์นั้นป่วยมาก เจ็บหลัง…หมอห้ามนั่งนาน แต่ก็ไม่ฟัง บอกกับเพื่อนๆว่า ให้สัญญากับสำนักพิมพ์ไว้แล้ว อย่าทำให้เสียคำพูด ท้ายสุดเพื่อนบอกว่าจบรติภวังค์แล้วต้องหยุดนั่งพิมพ์นิยายสักเดือนหนึ่ง ก็รับคำไป แต่อย่างว่า ไก่ก็เห็นตีนงู งูก็เห็นนมไก่ (ผู้เขียนขอเป็นงูนะจ๊ะ นะจ๊ะ) ไม่มีใครเชื่อหรอก นอกจากมานั่งคุมที่หน้าคอมพิวเตอร์ แล้วถามอยู่นั่นแหละว่าจบหรือยัง จบหรือยัง มาชะโงกหน้าตามนับทุกหน้า ทำราวกับว่าคุณท่านอ่านภาษาไทยออก
ตอนตีหนึ่งของวันนั้น ผู้เขียนเขียนว่า อวสาน บนกระดาษหน้าท้ายสุด รุ่งเช้าหนึ่งในท่านทั้งหลายเดินมาสำรวจ เห็นภาษาไทยก็ยังอุตส่าห์เดาได้ว่าเป็น THE END ก็รีบส่งสัญญาณผ่านดาวโจรให้กัน จากนั้นก็พุ่งเข้ามากระชากร่างอันเปลือยเปล่าของคีย์บอร์ดแยกออกจาก อ้อมอกของเครื่องคอมพิวเตอร์ทันที แล้วหันมายิ้มให้กันด้วยนะ ท่านบอกแก่กันว่า
“It is a happy ending romance… Wow! Wow! Wow! Yippy!”
ผู้เขียนก็มองเครื่องมือทำมาหาโม้ด้วยอาการนิ่ง แล้วไปนอนสงบให้เพื่อนเห็นว่าต้องการพักผ่อน พอพวกท่านสั่งลาอย่างอาดูรว่า นอนพักให้มากๆนะอาจารย์… วันอาทิตย์จะมาเยี่ยม ผู้เขียนก็เออออ… ว่า Bon Voyage ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ
แอบดูตรงระเบียงเห็นว่าพาหนะขนส่งมวลไก่ตีโค้งตรงทางแยก พาเพื่อนชาวป้อ กระต๊ากๆถอยห่างจากชีวิตไป เท่านั้นแหละ! ผู้เขียนกระโจนไปหาลิฟต์แล้วลงไปที่ห้องเก็บของใต้ถุนหอคอยงาช้าง ไปขุดคีย์บอร์ดจากเครื่องเก่ามาแนบกระชับไว้ในอ้อมกอด พร้อมกับแต่งกลอนเยินตัวเองว่า…
ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร
ก็ไม่หยุดเจ้าเล่ห์สิเน่หา
แม้ถูกยึดคีย์บอร์ดยอดชีวา
สุวดีวิลาสลักษณาหรือพรั่นพรึง
แม้จะเปื่อยเจียนตายจนหงายเก๋ง
ไม่ม่องเท่งหยุดจิ้มดีดเรื่องปั๋งปึ๋ง
ซื้อ Lap Top เมื่อไรได้ตะลึง
อาจารย์โจ๊กจิ้มดีดทึ้งเรื่องบนเตียง*
(*เชิงอรรถ แปลว่าอาจารย์โจ๊กสามารถนอนพิมพ์ต้นฉบับบนเตียงได้นะคะท่านกบว. อย่าเพิ่งมาแบนเรื่องของอาจารย์โจ๊กนะคะ ตอนอาจารย์โจ๊กอยู่ชั้นประถมเคยได้ท็อปวิชาศีลธรรม แถมตอนนี้ยังท่อง…ธรรมะคือคุณากร…ได้นะคะท่าน)

                     วิลาสลักษณา
                     Ede, The Netherlands


เกี่ยวกับผู้เขียน

ผู้หญิงที่เขียนเรื่อง ‘เฉกนิรฉันท์’ คนนี้
เพื่อนเยินยอมาว่าเป็น ‘หญิงฮ่า’ ที่สามารถจำแลงกายาเป็น ‘หญิงเม้ง’ ได้เร็วกว่าความเร็วของเสียงของคนที่มารบกวนโสตประสาท  แต่พอถามเจ้าพลายเนยของแม่ดู  เธอตอบว่า
“แม่น่ารัก…ถึงแม้ว่าระยะนี้จะเจียวไข่ให้เนยกินกับข้าวคลุกน้ำปลาบ่อยไปหน่อยก็ไม่เป็นไร  เนยก็คงรักแม่เพิ่มตามจำนวนไขมันในเส้นเลือดที่ได้มาจากไข่เจียว”
คำรักอ้างอิงหลักโภชนาการนี้ช่างเป็นกำลังใจให้แม่จิ้มดีดต้นฉบับได้นักหนา  จึงสนับสนุนเธอต่อไปว่า
“เหอะน่า แม่ต้องแต่งนิยายรักเพื่อปลอบใจทะเบียนหย่าของแม่ ต้นฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้แม่คงเก็บเงินจากที่แม่เขียนนิยายได้ แม่จะซื้อคอมพิวเตอร์ แล้วติดอินเตอร์เน็ตให้เนย  แต่เนยต้องปล่อยให้แม่เขียนนิยายอย่างนี้นะลูก  เริ่มเรื่องใหม่นี้ไม่ต้องกินไข่เจียวแล้วลูก  เปลี่ยนมากินบะหมี่สำเร็จรูปก็แล้วกันนะ  จะกินอะไรดีล่ะ  มาม่าหรือยำยำ?  มีให้เลือกตั้งหลายรส”
คราวนี้เธอไม่หลงคำเยิน เธอใช้สัญญาณโทรสารส่งไปสั่งเป็ดปักกิ่งที่ภัตตาคารจีนด้วยตัวเอง แล้วหมายเหตุด้วยว่า
“ต้นปีฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ผมจะสั่งอาหารผ่านอินเตอร์เน็ต” แล้วก็ลงชื่อ โกนิคกี้ (เลียนแบบโกกุน โกฮัน จากการ์ตูน Dragonball Z)
ซึ่งเจ้าของร้านก็ได้ฮ่อๆตามที่เธอเจรจาตาเหล่ไป  สองคนนี้เค้าเป็นเพื่อนต่างวัย  คนหนึ่งพูดดัตช์ปนจีน  อีกคนฟังไม่ค่อยเข้าใจเลยสื่อด้วยไทยปนดัตช์…คงเห็นใจกันมาตั้งแต่สมัยเจงกีสข่านเรืองอำนาจ  แม่ก็ไม่ว่าอะไร  นอกจากดูพัฒนาการของลูกที่มีแม่เป็นหญิงหากิน เอ๊ย! ทำมาหากินตัวเป็นเกลียว
ช่วงนี้แม่ฟังความคิดอะไรจากลูกก็ได้แต่ปลื้มใจ  เพราะลูกชายได้รับเลือกเข้า Grammar School  ถ้าตั้งใจเรียนจนจบ  เธอก็จะเรียนต่อทางวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (เธอว่าของเธออย่างนี้)  แต่พอถามว่าจบออกมาแล้วจะเป็นอะไร เราก็หวังว่าคำตอบของเธอคงจะเป็นวิศวกรหรือไม่ก็โปรแกรมเมอร์
แต่เปล่าเลย…เธอกลับบอกว่า
“จบมาแล้วจะมาเตะตะกร้อกับน้าต้อง น้าไก่โต้ง  น้าลิตเติ้ล น้าเต้ย  ส่วนน้าเอก น้าโทกับแฟนๆของพวกน้าผู้ชาย  เนยจะให้เป็นคนเก็บลูกตะกร้อกับเสิร์ฟน้ำ… อ้อ! ซื้อข้าวหน้าเป็ดด้วย”
เนยเอ๊ย…แม่ก็มีปัญญาแค่ส่งเสียให้ลูกเรียนที่ฮอลแลนด์เท่านั้นนะลูกนะ ส่วนอนาคตที่จะลอยรุ่งโรจน์ไปตามลูกตะกร้อส่วนนี้นั้น  ลูกคงต้องฝากไว้ให้ไปติดอยู่ตามศอก เข่า เท้า ลูกแป…ของพวกน้าๆของลูกก็แล้วกัน… แม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้ตามประสาผู้หญิงที่มีเสน่ห์ปลายจวัก (แต่กวักออก) เพียงที่เห็นเท่านี้เองลูก